สถานีที่ 20 ศิลปิน

บางคนเขียนบันทึกประจำวัน บางคนวาดรูป บางคนจัดการแสดงดนตรี

โทมัส สมิธ “อ้อ แล้วก็มีเพลงมากมายที่เราฟังแล้วคิดถึงบ้านมากทั้งเพลง There is no place like home , Home sweet Home พวกนี้เป็นเพลงเก่าแต่มันล้วนมีความหมาย เราเคยร้องเพลงพวกนี้ตอนเดินออกไปทำงาน ทั้งเพลง It’s a long way to tipperary , Wish me luck as you wave me goodbye เราเคยร้องเพลงตอนออกไปทำงาน และนั่นเป็นเหตุผลที่คนชาติอื่นจำนวนมากอยากจะมาอยู่กับเรา เพราะเราสามารถเปลี่ยนความทุกข์ทางใจให้ดีขึ้นได้บ้าง” กอดอร์น เนลสัน “เรามีการจัดการแสดงดนตรีในวันคริสมาสต์ และหนึ่งในเพลงสุดท้ายที่พวกนั้นร้อง เป็นเพลงที่คล้ายกับเพลงประสานเสียง นั่นคือเพลง Look for the silver lning มันเหมือนการร้องเพลงในนรกเลยจริงๆนะ เพราะค่ายนั้นมันเลวร้ายจริงๆ ในแต่ละวันจะมีเสียงเพลงพิธีศพดัง 4 ครั้ง”

บางคนเก็บหนังสือในฐานะทรัพย์สินที่มีค่ามากที่สุด

แฟรงค์ ไทเลอร์ “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะพกหนังสือเล่มหนึ่งไว้เสมอ ผมมีอยู่ 2 เล่มที่พกติดตัวไว้ตลอด เล่มหนึ่งเป็นนิยายแนวลึกลับเรียบเรียงโดย Dorothy L Sayers ส่วนอีกเล่มชื่อว่า The dead are calling และก็เป็นนิยายแนวลึกลับเหมือนกัน คุณจะให้ใครสักคนยืมหนังสือเพื่อแลกกับหนังสือที่เขามี มันคือธุรกิจนะ”

เมอเร่ย์ กริฟฟิน , แจ็ค ชอร์กเกอร์ , เรย์ พาร์คิน และจอร์ด แอดพินอร์ล คือหนึ่งในเชลยที่หาสิ่งต่างๆมาวาดสิ่งที่เห็นบนเศษกระดาษหรือผ้าเก่าๆ

เรย์ พาร์คิน “เพื่อนๆรอบตัวผมเก็บสะสมผีเสื้อและแมลง นายมีไอ้นี่รึยัง นายมีไอ้นั่นรึยัง แน่นอนว่าผมไม่มีเวลาวาดทุกอย่าง แต่ก็ยังมีผีเสื้ออีกเป็นล้านตัวอยู่บนนั้น เป็นฝูงที่สวยงาม และผมก็ไม่สามารถวาดมันได้ทั้งหมด แต่พวกเพื่อนๆก็ยังจะนำมันกลับมา แม้จะต้องเจอกับความทุกข์ทรมานและการทุบตีอยู่เรื่อยๆ เราก็ยังมีสิ่งนี้ เราพยายามมองหาสิ่งที่น่าสนใจ และพูดคุยเกี่ยวกับมัน เราไม่ได้เอาแต่จะเกลียดชังอยู่ตลอดเวลา”

ศิลปินเหล่านี้เสี่ยงชีวิต เพื่อบันทึกความหายนะที่เกิดจากโรคร้ายและการทารุณกรรมที่เป็นหลักฐานส่วนหนึ่งในการไต่สวนอาชญากรรมสง

คราม

เฟรดเดอลิกซ์ ฟิชช์ “พวกนั้นมัดมือผมไว้ด้วยกัน ด้วยเชือกเส้นใหญ่มากแล้วผมก็ห้อยต่องแต่งอยู่กับเชือกข้างนอกนั่น ผมสูงพอที่จะหยังเท้าบนพื้นได้ ผมเลยอยู่ตรงนั้นตั้งแต่ตอนห้าโมงเย็นจนถึงช่วงกลางคืน แล้ววันต่อมา ผมเริ่มสติหลุดลอย ตัวผมชาไปหมด แล้ววันต่อมาพวกนั้นก็ตัดผมลงมา แล้วผมก็รอดมาได้ นั่นเป็นครั้งเดียวที่ผมคิดว่าตัวเองน่าจะไม่รอด”

ดักลาส วอนรี่ “พวกยุ่นเดินลงมา ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาชักดาบปลายปืนออกมาแล้วเสียบมันใส่ท้องของพวกเราคนหนึ่ง ผมไม่รู้ว่าเขาทำอะไรไว้ แต่พอคิดถึงสิ่งนั้น คุณลองคิดถึงดาบปลายปืนที่แทงทะลุตัวคุณดูซิ ผมเห็นหมอนั่นล้มลง เขานอนหงายโดยมีดาบปลายปืนเสียบคาอยู่ ผมทำอะไรไม่ได้เลย”

สถานีที่ 21 ซี่งเป็นสถานีต่อไป คือจุดที่เรียกว่า เขื่อน 7 เมตร

Go to top
JSN Dona 2 is designed by JoomlaShine.com | powered by JSN Sun Framework